วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ได้เวลาเดินหน้า3จีทีโอที



“19 พ.ค.นี้” เปิดข้อมูลการทำตลาด 3จี ทีโอที ทั่วประเทศ พร้อมเข้าบอร์ดเซ็นอนุมัติแหล่งเงินกู้ หลังเซ็นสัญญาจ้างผู้ชนะประมูล 9 พ.ค. ระบุ เอ็มวีเอ็นโอยังเป็นกำลังหลักในการเจาะตลาดสาวกมือถือ
    
นายประพันธ์ บุณยเกียรติ กรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในวันที่ 19 พ.ค.นี้บอร์ดจะประชุมเพื่อพิจารณาและรับทราบผลการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการทำตลาด 3จี ทีโอทีทั่วประเทศ จากบริษัท บอสตัน คอนเซ้าท์ติ้ง กรุ๊ป (บีซีจี) ประกอบด้วย แนวทางการทำธุรกิจ และรูปแบบการทำตลาด เบื้องต้นยังเน้นทำตลาดผ่านผู้เช่าใช้โครงข่ายเพื่อนำไปให้บริการ (เอ็มวีเอ็นโอ) เป็นหลัก ส่วนจะเปิดรับเอ็มวีเอ็นโอรายใหม่นอกจาก 5 รายเดิม คือ ไออีซี, บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย, ล็อกซเล่ย์, 365 คอมมูนิเคชั่น และเอ็ม คอนซัลท์ หรือไม่ ต้องดูผลการศึกษาของบริษัท บอสตันฯ ก่อน นอกจากนี้ในวาระการประชุมวันดังกล่าวยังมีการพิจารณาเพื่อเซ็นอนุมัติเงินกู้เพื่อลงทุน  3จี ทีโอทีจากธนาคารต่าง ๆ ที่ยื่นข้อเสนอด้วย
    
สำหรับแหล่งเงินกู้เพื่อนำมาลงทุน 3จีทีโอทีทั่วประเทศ เบื้องต้นที่ประชุมบอร์ดซึ่งมีนายบุญมาก ศิริเนาวกุล รองประธานบอร์ดทีโอที รักษาการประธานบอร์ดเป็นประธานที่ประชุม มีข้อสรุปเลือกกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารยูโอบี ในการกู้เงินเพื่อทำโครงการ 3จี ทีโอทีทั่วประเทศ เนื่องจากให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำที่สุด และระยะเวลาชำระคืนเงินกู้นานที่สุด ซึ่งจะนำเข้าบอร์ดทีโอทีพิจารณาเซ็นอนุมัติการกู้เงินในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงิน 80 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าโครงการที่ได้จากการประมูล 15,999 ล้านบาท
    
ด้านนายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสแอล คอมซัลเตียม ผู้ชนะการประมูลโครงการ 3จี ทีโอทีทั่วประเทศ ซึ่งเซ็นสัญญาวางโครงข่าย 3จี ทีโอทีทั่วประเทศเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานวางโครงข่าย 3จี ทีโอทีทั่วประเทศ ว่า การติดตั้งโครงข่ายจะต้องทำภายใน 360 วัน 
    
สำหรับสัดส่วนการดำเนินงานวางโครงข่ายแบ่งเป็น บ.สามารถฯ ติดตั้งโครงข่ายในเขต กทม.และปริมณฑล 65% ส่วนบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ติดตั้งในภูมิภาค 35% โดยจะเริ่มติดตั้งโครงข่ายในเดือน มิ.ย.นี้ จำนวน 500 สถานีฐาน จากเดิมที่ ทีโอทีติดตั้งแล้ว 500 สถานีฐาน ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 3 จะเปิดให้บริการ 3 จี ได้ครอบคลุมในเขตกทม.และปริมณฑล
    
ปัจจุบันทีโอที มีลูกค้าผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทีโอที 3จี ประมาณ 200,000 เลขหมาย โดยตั้งเป้าหมายปี 2554 จะมีลูกค้าประมาณ 1.3 ล้านเลขหมายรายได้ปีแรก 1,700 ล้านบาท  และเพิ่มเป็น  7 ล้านเลขหมายในปี 2558 มีส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อยกว่า 8%. 



http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=316&contentID=139146

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น